วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม


การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม  
.............. การหลังจากที่มีการจดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว ทั้งบริษัท และห้างหุ้นส่วน เมื่อมีการขอเลขเลขประจำตัวผู้เสียภาษี แล้ว ผู้ประกอบการต้องการจดทะเบียนเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็มีหลักเกณฑ์ในการจดทะเบียนคะ
                        
ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต (VAT)


1.ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร คะ บางคนก็สงสัยคะ ว่า มันคืออะไร ก็คือ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า แวต เป็นภาษีทางอ้อมประเภทหนึ่งที่เรียกเก็บจากบุคคลที่ซื้อสินค้าหรือรับบริการ โดยจัดเก็บเฉพาะจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนของการผลิต การจำหน่ายหรือการให้บริการ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นร้อยละ 7 ซื้อวัตถุดิบ วัสดุอุปกรณ์มา 100 บาท และมีภาษีซื้อ 7 บาท เมื่อผลิตเป็นสินค้าขายในราคา 300 บาท ตอนขายไปจะต้องคิดหรือบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 21 บาท ดังนี้ ก็จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเฉพาะผลต่างจำนวน 21-7 = 14 บาท เป็นต้น ถ้าการซื้อ และขายเกิดขึ้นภายในรอบการจ่ายภาษีเดียวกัน


2.ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเมือใดการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรียกว่า VAT ปัจจุบันมีอัตรา 7 % ภาษีมูลค่าเพิ่มบางกิจการได้รับการยกเว้น ไม่ต้องจดเพราะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน เนื่องจากถ้าให้เจ้าของกิจการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนี้จะถูกผลักไปที่ผู้บริโภค เช่น กิจการเกี่ยวกับการขนส่ง กิจการค้าผืชผลทางการเกษตร แต่บางครั้งเจ้าของกิจการไม่ทราบว่าต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ เพราะดูก้ำกึ่ง ก็ควรสอบถามกับทางกรมสรรพากร แต่ถ้าหากใช้บริการสำนักงานบัญชี ซึ่งก็จะได้รับคำปรึกษาทางนี้ได้ บางกิจการที่ดูก้ำกึ่งเช่น กิจการจำหน่ายสุนัข และขายอุปกรณ์ในการดูแลสุนัข ต้องดูว่ารายได้หลักคืออะไร ถ้าหากขายอุปกรณ์เป็นรายได้หลัก ก็จะเข้าเกณฑ์ที่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม กิจการขายอาหาร ก็ไม่ใช่เป็นการขายพืชผลทางการเกษตร แต่เป็นการขายสินค้า ซึ่งก็คืออาหาร ก็ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม
หลักเกณฑ์ในการขอจดภาษีมูลค่า ก็คือ นิติบุคคลใด ที่มีรายได้ไม่เกิน 1,800,000 บาทต่อปี ก็ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่หากมีความประสงค์จะขอเข้าจดเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนก็ได้ แต่ถ้าเกิน 1,800,000 บาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มิฉะนั้นจะต้องถูกประเมินภาษี ผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว สามารถออก ใบกำกับภาษี ให้กับลูกค้าได้
ดังนั้นจะพิจารณาว่า จะจดเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มดีหรือไม่ ให้พิจารณาจาก
1. ต้องการออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้าหรือไม่ หรือลูกค้าต้องการใบกำกับภาษีจากเรา ดังนั้นเราต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มแน่นอน (เพราะผู้มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษีได้ ก็คือผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
2.มีรายได้ถึง 1,800,000 บาทหรือไม่ ถ้าถึง ก็ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
3.พิจารณาว่า กิจการเรา ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ เช่น กิจการขนส่ง เป็นต้น
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว บุคคลธรรมดา ที่รับงานส่วนตัว และให้บริษัทหรือนิติบุคคล หักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นค่าจ้าง ค่าบริการ ฯลฯ ถ้าหากรายได้เกิน 1,800,000 บาทต่อปี ก็ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกัน เรื่องนี้ต้องระวังเพราะถูกภาษีย้อนหลังกันเยอะ โดยส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่า บุคคลธรรมดาต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย


หลักฐานและเอกสารในการขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เอกสารที่ต้องใช้ดังนี้
นิติบุคคล(บริษัท,ห้าง)
1..สำเนาหนังสือรับรองพร้อมวัตถุประสงค์ ไม่เกิน 1 เดือนและใบสำคัญการจดทะเบียน เซ็นรับรองประทับตรา
2..สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของกรรมการตามอำนาจในหนังสือรับรอง
3.สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ (กรณีเป็นบริษัท)และบัญชีผู้หุ้น (บอจ.5)
4.สำเนารายงานการประชุมหรือข้อบังคับ(กรณีเป็นบริษัท)
5.สำเนาสัญญาเช่า(กรณีเช่า)หรือหนังสือยินยอมที่ตั้งประกอบการ พร้อมหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ เช่น สัญญาซื้อขาย,โฉนดที่ดิน
6. สำเนาทะเบียนบ้านสถานที่ประกอบการ
7.สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ให้เช่าหรือผู้ให้ความยินยอมแล้วแต่กรณี
ถ้าเช่า ต้องเช่าในนามนิติบุคคล(บริษัท,ห้าง)และติดอากรให้เรียบร้อย(1000ละ1บาท/เดือน/ปี)
8.แผนที่ตั้งและภาพถ่ายแสดงให้เห็นป้ายชื่อบริษัทและเลขที่สถานที่ตั้งสำนักงาน
9.-หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีไม่อาจมาด้วยตนเอง)
10.แบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(ภพ.01) (ผู้จดทะเบียนเตรียมให้)
อนึ่ง
ในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในวันจดทะเบียน ต้องนำเอกสารตัวจริงทุกอย่างไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย ดังนี้
1.หนังสือรับรองพร้อมวัตถุประสงค์
2.หนังสือบริคณห์สนธิ (กรณีเป็นบริษัท)
3.รายงานการประชุม(กรณีเป็นบริษัท)
4.บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของกรรมการ,หุ้นส่วนผู้จัดการ
5.บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน
6.สัญญาซื้อขายหรือโฉนดที่ดิน
7.ทะเบียนบ้านสถานที่ประกอบการ
 


สถานที่ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม  ในเขตกรุงเทพมหานคร
-ให้ยื่นที่ฝ่ายทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำนักงานภาษีสรรพากรเขตพื้นที่ (สพท.) ทุกแห่ง
-ยื่นขอจดทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ททางเว็บไซด์สรรพรกร
http://rdserver.rd.go.th/online/regFrameset5.html
จังหวัดอื่น
-ให้ยื่นจดทะเบียนที่ตั้งสรรพากรอำเภอหรือให้ยื่นที่สำนักงานสรรพากรจังหวัด
-ยื่นขอจดทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ททางเว็บไซด์สรรพรกร
http://rdserver.rd.go.th/online/regFrameset5.html
อนึ่ง
-ในการจดทะเบียนผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้น จะอนุมัติการจดทะเบียน ล่าช้าไปประมาณ 15 วันคะ


ใช้บริการสำนักงาน"เพื่อนงานและการบัญชี"
 
ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมลฑล
-ค่าบริการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม คิด 1,000 บาท คะ
-ยื่นจดรวดเร็ว เอกสารพร้อมใช้เวลา 1 วันคะ
จังหวัดอื่น
-จังหวัดอื่นก็คิดตามจังหวัดคะว่าท่านมีสถานประกอบการจังหวัดอะไร


เป็นไงคะ การขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีขั้นตอนยุ่งยากนิดหนึ่ง ส่วนมากจะเป็นเรื่องของเอกสาร,สถานที่ประกอบการคะ
 สวัสดีคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น