วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ขอเลขผู้เสียภาษี

การขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี  
.............. การหลังจากที่มีการจดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว ทั้งบริษัท และห้างหุ้นส่วน ก็จะต้องมีการขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ภายใน 60 วัน แต่ถ้าจดทะเบียนพาณิชย์ แบบร้านค้าบุคคล คนเดียวไม่ต้องขอหมายเลขผู้เสียภาษี เพราะใช้หมายเลขบัตรประชาชนของเจ้าของได้เลย หรือจะเรียกว่าผู้จัดการร้านก็ได้ มิฉะนั้นมีโทษปรับทางอาญา 500บาท
                        
ใครที่ต้องมีเลขและบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร


ใครบ้างเอ่ย ที่ต้องขอเลขผู้เสียภาษี้ คือผู้มีเงินได้จากการประกอบการต่าง ๆ ซึ่งแยกได้ดังนี้คะ
  บุคคลธรรมดา ได้แก่
-ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (แต่ปัจจุบันใช้เลขบัตรประชาชนแทน)
-ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
-กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
  คณะบุคคล คณะบุคคลที่ไม่ใช่บุคคล
  นิติบุคคล ได้แก่
-บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายไทย
-บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายของต่างประเทศ และกระทำกิจการในประเทศไทย หรือ ทำกิจการขนส่งผ่านประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทย กิจการร่วมค้า
-กิจการซึ่งดำเนินการเป็นทางการค้าหรือหากำไรโดยองค์การ หรือรัฐบาลต่างประเทศ
-มูลนิธิหรือสมาคม(เฉพาะที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายไทย) ที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้ แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิ หรือ สมาคม ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสาธารณกุศล
  ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินได้ ได้แก่ ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินทุกประเภท ซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยผู้จ่ายเงินได้ ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษี ได้แก่ หน่วยงานของราชการ รัฐวิสาหกิจ เทศบาล สุขาภิบาล สหกรณ์ โรงเรียนราษฏร์ มูลนิธิหรือสมาคม ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล เป็นต้น


ขอมีเลขและบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีเมื่อใดบุคคลธรรมดา ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ยังไม่เคยมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ให้ยื่นคำร้อง(ลป.10)ขอมีเลขฯและ บัตรฯ ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือวันที่เริ่มประกอบกิจการในประเทศไทยแล้วแต่วันใด จะเป็นวันหลัง


หลักฐานและเอกสารในการขอมีเลขฯและบัตรฯ  แบบคำร้อง ลป. 10 และเอกสารประกอบแยกเป็นกรณีดังนี้
บุคคลธรรมดา
-สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
-หนังสือรับรองและยินยอมให้ใช้ที่อยู่จากที่ทำงาน หรือจากที่พักอาศัย หากมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด(ถ่ายสำเนา ทะเบียนบ้านของเจ้าบ้านด้วย)
-หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีไม่อาจมาด้วยตนเอง)
-ถ้านิติบุคคลขอเลขฯ และบัตรฯ แทนพนักงาน ให้แนบสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลจาก กระทรวงพาณิชย์ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของกรรมการผู้จัดการหรือผู้มีอำนาจลงนาม
คณะบุคคล
-สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้ร่วมคณะทุกคน
-สำเนาทะเบียนบ้านที่ตั้งคณะบุคคล
-สำเนาสัญญาหรือข้อตกลงการจัดตั้งคณะบุคคล (ถ้ามี)
-หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้มีอำนาจไม่อาจมาด้วยตนเอง)
นิติบุคคล
-สำเนาหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลจากกระทรวงพาณิชย์
-สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของกรรมการผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจลงนาม
-หนังสือยินยอมจากเจ้าบ้านหรือเจ้าของสถานที่ หรือสัญญาเช่า แล้วแต่กรณี
-สำเนาบัตรและทะเบียนบ้านของเจ้าบ้านหรือของผู้ให้เช่า
-กรณีไม่มีเจ้าบ้าน ให้แนบสัญญาซื้อขาย พร้อมทะเบียนสถานที่ประกอบการ
-หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้มีอำนาจไม่อาจมาด้วยตนเอง)
 


สถานที่ยื่นคำร้องขอมีเลข(หน่วยออกบัตรฯ)  ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นที่ฝ่ายกรรมวิธีสำนักงานภาษีสรรพากรเขตพื้นที่ (สพท.) ทุกแห่ง หรือ ที่ฝ่ายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของกองกรรมวิธีแบบแสดงรายการภาษี กรมสรรพากร (ไม่ใช่สำนักงานเขต ที่ยื่นเสีย ภาษี)
จังหวัดอื่น
-ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอเมือง หรืออำเภอที่ตั้งสำนักงานสรรพากรจังหวัด ให้ยื่นที่สำนักงานสรรพากรจังหวัด
-ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอบางละมุง ให้ยื่นที่สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ 9 ส่วนผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอหาด ใหญ่ ให้ยื่นที่สำนักงานภาษีสรรพากร พื้นที่ 10
-ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภออื่น ให้ยื่นคำร้องที่สำนักงานสรรพากรอำเภอ ที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่นั้น
-ผู้ที่มีภูมิลำเนาและสถานที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดกัน จะยื่นคำร้อง ณ หน่วยออกบัตรฯ ซึ่งมีสถานที่ทำงานตั้งอยู่ก็ได้


เป็นไงคะ การขอเลขผู้เสียภาษีง่ายมากเลยใช่ไม๊คะ แล้วอย่าลืมนะคะ เมื่อจดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว ต้องขอเลขผู้เสียภาษีภายใน 60 วันคะ
 สวัสดีคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น