ก. ลักษณะตามกฎหมาย
ผู้มีสิทธิขอรับสิทธิบัตร
ในกรณีผู้มีสิทธิขอรับสิทธิบัตร พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ได้บัญญัติไว้ดังต่อไปนี้
(ก) ผู้ประดิษฐ์ หรือผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือทายาทของบุคคลดังกล่าว (ม.10 วรรคแรก วรรคสอง และ ม.65)
(ข) นายจ้าง ผู้ว่าจ้าง หน่วยราชการ องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ (ม.11, 13, 65)
(ค) ผู้รับโอนสิทธิขอรับสิทธิบัตรจากบุคคลอื่น โดยจะต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอน และผู้รับโอน (ม.10 วรรคสอง สามและ ม.65)
ผู้มี สิทธิขอรับสิทธิบัตรตามข้อ 35 จะต้องเป็นผู้สัญชาติไทย หรือสัญชาติของประเทศที่ยอมให้บุคคลสัญชาติไทยขอรับสิทธิบัตรในประเทศนั้น ได้ไม่ว่าผู้ขอรับสิทธิบัตรนั้นจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตาม ซึ่งในกรณีของนิติบุคคลนี้ให้ถือเอาประเทศที่เป็นสถานที่ตั้งของสำนักงาน เป็นสัญชาติของผู้ขอ (สัญชาติของประเทศที่ยอมให้บุคคลสัญชาติไทยขอรับสิทธิบัตรในประเทศนั้น ได้-ปรากฏตามเอกสารประกอบ 1) (ม. 14, 65)
อย่างไรก็ตาม ในทางปฎิบัติจะนับเอาว่าหากประเทศใดระบุกำหนดผู้มีสิทธิยื่นขอรับสิทธิบัตรไว้ในทำนองเดียวกับกฎหมายไทยแล้ว ก็จะอนุโลมให้บุคคลสัญชาตินั้นยื่นขอรับสิทธิบัตรได้เช่นกัน
ในกรณีที่บุคคลหลายคนทำการประดิษฐ์หรืออกแบบผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ก็มีสิทธิในการขอรับสิทธิบัตรร่วมกันได้ ยกเว้นแต่ผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบร่วมบางคนไม่ต้องการขอรับสิทธิบัตรหรือติดต่อไม่ได้ หรือไม่มีสิทธิ ซึ่งผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบร่วมที่มิได้ร่วมขอรับสิทธิบัตรนี้จะขอเข้าร่วมรับสิทธิบัตรในภายหลังได้ แต่ต้องการออกสิทธิบัตร (ม.15, 65)
แม้ว่า การยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในครั้งแรกโดยผู้ประดิษฐ์ร่วมบางคนดังกล่าวได้ถูก ละทิ้งไปก็มิได้มีผลกระทบกระเทือนถึงสิทธิของผู้ประดิษฐ์ร่วมที่มิได้ร่วมขอ รับสิทธิบัตรในครั้งแรกแต่อย่างไร (ม.6(5))
ผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบฯมีสิทธิจะได้รับการระบุชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบฯไว้ในสิทธิบัตร (ม.10 วรรคแรก, ม.65)
ภาษาที่ใช้ในคำขอสิทธิบัตร ผู้ขอรับสิทธิบัตรจะต้องยื่นคำขอรับสิทธิบัตรพร้อมรายละเอียดการประดิษฐ์ข้อถือสิทธิ และบทสรุปการประดิษฐ์ กรณีเป็นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์หรือพร้อมคำพรรณาแบบผลิตภัณฑ์ (ถ้ามี) ภาพแสดงแบบผลิตภัณฑ์ และข้อถือสิทธิ กรณีเป็นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่จัดทำเป็นภาษาไทยในวันยื่นคำขอรับสิทธิบัตรนั้น (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 12 วรรคแรก (2) และข้อ 22)
แต่ในกรณีที่เป็นคำขอรับสิทธิบัตรที่ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรไว้ในต่างประเทศก่อนแล้ว ผู้ขออาจยื่นรายละเอียดการประดิษฐ์ ข้อถือสิทธิและบทสรุปการประดิษฐ์ กรณีเป็นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ หรือยื่นคำพรรณาแบบผลิตภัณฑ์และข้อถือสิทธิในกรณีที่เป็นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ เป็นภาษาต่างประเทศในวันยื่นขอรับสิทธิบัตรนั้นก่อนก้ได้แต่ต้องยื่นเอกสารดังกล่าวที่ได้จัดทำเป็นภาษาไทยภายใน 90 วัน นับจากวันยื่นคำขอรับสิทธิบัตร (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 12 วรรคสอง ข้อ 22)
ถ้าการยื่นเอกสารตามข้อ 41 ไม่สามารถกระทำได้ภายในกำหนดเวลา 90 วันให้ถือว่าผู้ขอรับสิทธิบัตรได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรนั้น ในวันยื่นเอกสารที่จัดทำเป็นภาษาไทยดังกล่าว (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 12 วรรคสาม, ข้อ 22)
คำขอรับสิทธิบัตร คำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ประกอบด้วย (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 2 วรรคสอง และวรรคสาม)
(ก) แบบพิมพ์คำขอรับสิทธิบัตร และเอกสารประกอบคำขอ
(ข) รายละเอียดการประดิษฐ์
(ค) ข้อถือสิทธิบัตร
(ง) บทสรุปการประดิษฐ์
(จ) รูปเขียน (ถ้ามี)
คำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย (ก) แบบพิมพ์คำขอรับสิทธิบัตร และเอกสารประกอบคำขอ
(ข) ข้อถือสิทธิ
(ค) ภาพแสดงแบบผลิตภัณฑ์
(ง) คำพรรณาแบบผลิตภัณฑ์ (ถ้ามี)
จากข้อ 43 และ ข้อ 44 จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคำขอรับสิทธิบัตรประเภทใดก็ตามล้วนแล้วแต่ต้อง ประกอบไปด้วยแบบพิมพ์คำขอรับสิทธิบัตรและเอกสารประกอบคำขอด้วยกันทั้งสิ้น จึงใคร่ขอกล่าวโดยรวมไว้ในที่นี้ดังต่อไปนี้
ข. แบบพิมพ์คำขอรับสิทธิบัตรและเอกสารประกอบคำขอ แบบพิมพ์คำขอรับสิทธิบัตร ประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญาฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2535) ได้กำหนดให้ใช้แบบพิมพ์ สป/สผ/001-ก (เอกสารประกอบ 2) ซึ่งผู้ขอรับสิทธิบัตรจะรับแบบพิมพ์นี้ พร้อมคำชี้แจงประกอบได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยแบบพิมพ์นี้มุ่งให้แสดงถึงข้อมูลประวัติและความประสงค์บางประการของผู้ขอสำหรับการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น การขอให้นับวันยื่นคำขอในต่างประเทศเป้นครั้งแรกเป็นวันยื่นคำขอในประเทศไทย การขอยื่นเอกสารเป็นภาษาต่างประเทศก่อน การแสดงรายระเอียดการฝากจุลชีพ (ในกรณีที่เป็นการประดิษฐ์จุลชีพใหม่) (ป.ฉ.1 (พ.ศ. 2535) ข้อ 2)
การลงลายมือชื่อผู้ขอในแบบพิมพ์คำขอรับสิทธิบัตร ในกรณีที่ผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบเป็นผู้ขอรับสิทธิบัตรเอง ผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบก็จะเป็นผู้ลงลายมือในข้อ 14 ของแบบพิมพ์ดังกล่าว ถ้าขอในนามนิติบุคคล ให้ผู้มีอำนาจลงนามเป็นผู้ลงลายมือชื่อผู้ขอรับสิทธิบัตรพร้อมประทับตรานิติบุคคลนั้น แต่ในกรณีที่มีการมอบอำนาจให้ตัวแทนสิทธิบัตรเป็นผู้กระทำการแทนก็ให้ตัวแทนสิทธิบัตรเป็นผู้ลงลายมือชื่อ (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 2 วรรคสอง และวรรคสาม)
ในกรณีที่ผู้ขอรับสิทธิบัตรเป็นนิติบุคคลไทย จะต้องยื่นหนังสือรับรองที่ออกไว้ก่อนล่วงเวลาหน้าไม่เกิน 6 เดือน ประกอบด้วย
หนังสือโอน จะต้องมีหนังสือโอนแนบมาพร้อมแบบพิมพ์ข้างต้นในกรณีที่ผู้ประดิษฐ์หรือออกแบบฯ ได้โอนสิทธิบัตรให้แก่ผู้อื่น โดยจะต้องมีการลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนโดยมิต้องมีการรับรองของโนตารีพับริค ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม (ในกรณีที่ผู้โอนและผู้รับโอนไม่มีถิ่นที่อยู่ในไทย และกระทำการโอนในต่างประเทศ) ทั้งนี้ ผู้ขอจะต้องยื่นหนังสือโอนต้นฉบับ 1 ชุดต่อการขอรับสิทธิบัตร 1 เรื่อง จะใช้สำเนามิได้ (ม.10 วรรคสาม ป.ฉ.1(พ.ศ. 2535) ข้อ 4)
คำรับรองสิทธิเกี่ยวกับสิทธิขอรับสิทธิบัตร คือแบบ สป/สผ/001-ก(พ) หรือ FORM PI/PD/001-A (Add) (เอกสารประกอบ 3) จะใช้ในกรณีที่ผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบฯ เป็นผู้ขอรับสิทธิบัตรด้วยตนเองมิได้โอนให้แก่ผู้ใด (ป.ฉ.1 (พ.ศ. 2535) ข้อ 3)
หนังสือรับรองสิทธิอื่นๆในการขอรับสิทธิบัตร เช่น หนังสือสัญญาลูกจ้าง (ในกรณีเป็นการว่าจ้าง) ฯลฯ จะต้องใช้ต้นฉบับเช่นกัน (ป.ฉ.1 (พ.ศ. 2535) ข้อ 4)
หนังสือมอบอำนาจ เป็นหนังสือแสดงการมอบอำนาจในการดำเนินกิจการใดๆของผู้ขอให้แก่ตัวแทนสิทธิ บัตรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินการแทนผู้ขอ สำหรับผู้ขอที่ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยโดยจะต้องมีคำรับรองรองลายมือ ชื่อโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทย หรือหัวหน้าสำนักงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประจำอยู่ ณ ประเทศที่ผู้มีอำนาจมีถิ่นที่อยู่ หรือเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายให้กระทำการแทนบุคคลดังกล่าว หรือคำรับรองของบุคคลซึ่งกฎหมายของประเทศนั้นให้มีอำนาจรับรองลายมือชื่อ หรือถ้าการมอบอำนาจนั้นได้กระทำในประเทศไทยต้องส่งภาพถ่ายหนังสือรับรองถิ่น ที่อยู่ชั่วคราวหรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าในขณะมอบอำนาจนั้น ผู้มอบอำนาจได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยจริง ทั้งนี้จะต้องปิดอากร 30 บาท ต่อผู้รับมอบอำนาจ 1 คน (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 13, 22)
ในกรณีที่ผู้ขอรับสิทธิบัตรมีถิ่นที่อยู่ในไทยจะทำการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำแทนก็ได้ โดยต้องมอบอำนาจให้แก่ตัวแทนสิทธิบัตรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเท่านั้น (ดูคำขอขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนสิทธิบัตรในเอกสารประกอบ 4) (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 14, ข้อ 22 และ ป.ฉ.4 (พ.ศ. 2535)
ถ้าผู้ขอรายเดียวกันได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในคราวเดียวกันมากกว่า 1 คำขอจะต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจต้นฉบับต่อพนักงาน โดยยื่นฉบับสำเนาสำหรับคำขอรับสิทธิบัตรแต่ละคำขอ
ผู้ขอ รับสิทธิบัตรจะต้องยื่นหนังสือมอบอำนาจ หรือหนังสือรับรองดังกล่าวที่จัดทำเป็นภาษาต่างประเทศพร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ที่ผู้แปลและผู้รับมอบอำนาจได้รับรองว่าเป็นคำแปลภาษาไทยที่ถูกต้องตรงกับ หนังสือมอบอำนาจหรือหนังสือรับรองดังกล่าวพร้อมคำขอรับสิทธิบัตร (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 15)
ในกรณีที่ผู้ขอมิอาจยื่นเอกสารประกอบดังกล่าวข้างต้น (หนังสือโอนคำรับรองสิทธิ, หนังสือมอบอำนาจ) ในวันขอรับสิทธิบัตรพร้อมคำขอได้ ก็อาจขอผ่อนผันการนำส่งเอกสารดังกล่าวได้ 90 วัน และยังอาจขอขยายระยะเวลาออกไปได้อีก 30 วัน โดยต้องยื่นขอก่อนหมดระยะเวลา 90 วัน ดังกล่าวไม่น้อยกว่า 10 วัน (ป.ฉ.1 (พ.ศ. 2535) ข้อ 4)
การขอให้นับว่ายื่นคำขอในต่างประเทศเป็นครั้งแรกเป็นวันยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในไทย ใน กรณีที่ผู้ขอรับสิทธิบัตรได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ไว้นอกราช อาณาจักรแล้วและได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรสำหรับการประดิษฐ์เดียวกันในไทยภาย ใน 12 เดือน หรือสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ผู้ขอจะมีสิทธิขอให้ถือว่าเสมือนได้ยื่นคำขอนั้น ในวันที่ได้ยื่นคำขอในต่างประเทศเป็นครั้งแรกดังกล่าว หากประเทศที่ผู้ขอมีสัญชาติให้สิทธิในทำนองเดียวกันแก่บุคคลสัญชาติไทย (ม.19 ทวิ, ม.60)
ผู้ขอจะต้องแสดงความประสงค์ขอสิทธิตามข้อ 53 โดยการแสดงเครื่องหมายในช่องที่ต้องการของข้อ 6 ในแบบพิมพ์ สป/สผ/001-ก (เอกสารประกอบ 2) พร้อมรายละเอียดของคำขอรับสิทธิบัตรที่ยื่นในต่างประเทศเป็นครั้งแรกดังกล่าว คือวันยื่นคำขอ เลขที่ขอ ประเทศที่ยื่น สัญลักษณ์จำแนกการประดิษฐ์ระหว่างประเทศ และสถานะคำขอด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วควรจะขอมาพร้อมคำขอรับสิทธิบัตร หรือจะขอก่อนวันประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตรแต่ต้องไม่เกินสิบหกเดือนนับแต่วันยื่นคำขอนั้นในต่างประเทศเป็นครั้งแรกดังกล่าวก็ได้ (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 10 ข้อ 21)
(ในกรณีที่เป็นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ควรจะขอมาพร้อมคำขอรับสิทธิบัตร หรืออาจจะขอสิทธินี้ก่อนวันประกาศโฆษณาคำขอดังกล่าวในประเทศไทยก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดเวลา 16 เดือนเหมือนการประดิษฐ์) โดยจะต้องยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาดังนี้
(ก)สำเนาเอกสารแสดงรายละเอียดตามคำขอรับสิทธิบัตรที่ยื่นไว้ในต่างประเทศเป็นครั้งแรกกล่าวคือรายละเอียดการประดิษฐ์ ข้อถือสิทธิ บทสรุปการประดิษฐ์ รูปเขียน (ถ้ามี) หรือคำพรรณาแบบผลิตภัณฑ์ (ถ้ามี) ข้อถือสิทธิ และภาพแสดงแบบผลิตภัณฑ์ตามแต่กรณี ที่มีการรับรองความถูกต้อง โดยสำนักงานสิทธิบัตรของประเทศที่ยื่นไว้เป็นครั้งแรกดังกล่าว และ
(ข)หนังสือรับรองวันยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่ออกให้โดยสำนักงานสิทธิบัตรของประเทศที่ยื่นครั้งแรกดังกล่าว
การยื่นเอกสารตามข้อ 58 นั้น อาจยื่นพร้อมคำขอหรือก่อนวันประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตรในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ถ้าไม่สามารถยื่นเอกสารดังกล่าวได้ทันภายในกำหนดเวลา ก็จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว (ป.ฉ.1 (พ.ศ. 2535) ข้อ 7)
ในกรณีที่เอกสารตามข้อ 58 จัดทำขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศผู้ขอจะต้องจัดทำคำแปลเอกสารดังกล่าวเป็นภาษาไทยด้วย
มีข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับสิทธิขอนับวันยื่นคำขอดังกล่าว ดังต่อไปนี้
(ก)ผู้ขอที่จะขอสิทธิดังกล่าวนี้ได้จะต้องถือสัญชาติของประเทศที่ให้สิทธิในทำนองเดียวกันนี้กับบุคคลสัญชาติไทย ซึ่งรัฐมนตรีจะประกาศรายชื่อประเทศดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาเมื่อการติดต่อระหว่างไทยกับต่างประเทศนั้นๆได้ผลเรียบร้อยแล้ว ในกรณีที่ผู้ขอเป็นนิติบุคคล จะถือเอาสัญชาติของประเทศที่ตั้งสำนักงานเป็นสัญชาติของผู้ขอ
(ข)ถ้ามีผู้ขอมากกว่า 1 คน ในจำนวนขอเหล่านั้นจะต้องมีผุ้ขอที่มีสัญชาติของประเทศที่ให้สิทธิในทำนองเดียวกันนี้แก่บุคคลสัญชาติไทยอย่างน้อย 1 คน
(ค)การ ขอนับวันยื่นคำขอในต่างประเทศเป็นครั้งแรกเป็นวันยื่นคำขอในไทยนี้จะมี ลักษณะเดียวกับเรื่อง Priority Right ในต่างประเทศ คือจะนับวันยื่นคำขอในต่างประเทศเป็นครั้งแรกว่าเป็นเสมือนวันยื่นคำขอในไทย เฉพาะในกรณีพิจารณาความใหม่เท่านั้น (คือไม่นำเอาเอกสารใดๆที่แสดงถึงการประดิษฐ์ หรือการออกแบบฯ ที่ปรากฎขึ้น ในระหว่างวันยื่นคำขอในต่างประเทศเป็นครั้งแรกและวันยื่นคำขอในไทยมาพิจารณา เป็นงานที่ปรากฎอยู่แล้วของคำขอรับสิทธิบัตรที่ยื่นในไทยดังกล่าว)
หนังสือรับรองการฝากเก็บจุลชีพ เป็นหนังสือรับรองการฝากเก็บจุลชีพที่ออกให้โดยสถาบันรับฝากเก็บจุลชีพ สำหรับการประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับจุลชีพใหม่และไม่อาจบรรยายให้ผู้ชำนาญการในระดับสามัญเข้าใจรายละเอียดของจุลชีพนี้ได้ หรือเป็นจุลชีพที่หาได้ยาก ซึ่งนอกจากผู้ขอจะต้องระบุรายละเอียดการฝากเก็บจุลชีพตามข้อ 7 ในแบบพิมพ์ สป/สผ/001-ก แล้ว ยังต้องส่งใบรับรองจากสถาบันการฝากเก็บที่รับฝากไว้มาพร้อมคำขอรับสิทธิบัตร โดยในใบรับรองนี้ควรต้องบรรยายรายละเอียด หรือลักษณะของจุลชีพดังกล่าวนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในแบบพิมพ์ดังกล่าวด้วยแต่ผู้ขอก็อาจขอผ่อนผันการนำส่งหนังสือรับรองนี้ได้ 90 วัน (ตัวอย่างหนังสือรับรองการฝากเก็บจุลชีพ-เอกสารประกอบ 5) (กฎ ฉ.13 ข้อ 2 วรรคสาม)
สถาบันการฝากเก็บนี้จะต้องเป็นสถาบันตามที่อธิบดีกำหนดด้วย (ป.ฉ.3 (พ.ศ. 2535))
การประดิษฐ์ ดังได้กล่าวไว้ในข้อ 43 คำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ นอกจากจะประกอบด้วยแบบพิมพ์คำขอรับสิทธิบัตรและเอกสารประกอบคำขอแล้วยังประกอบไปด้วย (กฎ ฉ.13 (พ.ศ. 2535) ข้อ 2)
(ก) รายละเอียดการประดิษฐ์
- รายละเอียดการประดิษฐ์
- ข้อถือสิทธิ
- บทสรุปการประดิษฐ์
- รูปเขียน (ถ้ามี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น